องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี : www.tambonbanpra.go.th

 
 
สถานที่ท่องเที่ยว

***ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปราจีนบุรี สี่แยกเนินหอมเป็นบริเวณที่รวบรวมแหล่ง ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดไว้หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์เมื่อครั้งกรีฑาทัพจากกรุงศรีอยุธยาผ่านปราจีนบุรี ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในท่าประทับยืน ผู้มีจิตศรัทธาและชาวบ้านในท้องถิ่นนิยมมาสักการะบูชาสม่ำเสมอ สนใจแวะเข้าเยี่ยมชมได้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ : สี่แยกเนินยายหอม ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี 25230 ***วนอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ น้ำตกเขาอีโต้ตั้งอยู่ในวนอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ เป็นธารน้ำที่ไหลตลอดทั้งปีมีน้ำมากเฉพาะช่วงฤดูฝน มีแอ่งน้ำเล็กๆอยู่เป็นชั้นๆ ทุกชั้น สลับกับแนวโขดหินแต่ละแอ่งน้ำไม่ลึกและไหลไม่แรงมากนัก เป็นธารน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก โดยเดินทางมุ่งสู่ทิศเหนือของตัวเมืองจากตัวเมืองปราจีนบุรีพอเดินทางถึงวงเวียนศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้เลี้ยวขวาไปตามวงเวียนบนทางหลวงหมายเลข ๓๓ ระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๑๖๐-๑๖๑ ถนนทางหลวงชนบท ปจ.๒๐๑๒ เข้าไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร จะมีวัดถ้ำเขาอีโต้,น้ำตกเขาอีโต้,อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์หรืออ่างเขาอีโต้ ***พิพิธภัณฑ์พระครูอุทัยธรรมธารี (เส็ง สุขิโต) ตั้งอยู่บ้านแยกวงเวียนนเรศวรหมู่ที่ ๑๕ จากความตั้งใจของท่านพระครูอุทัยธรรมธานี(เส็ง สุขิโต)อดีตเจ้าอาวาสวัดป่ามะไฟ ที่ต้องการเก็บรักษาวัสดุโบราณและของสะสมที่บรรดาญาติโยมร่วมกันถวายนำมาสู่การสร้างสรรค์ พิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่า ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาวัตถุโบราณล้ำค่าและยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของอนุชนรุ่นหลังโดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๖ ภายในอาคารจัดแสดงประกอบด้วย ๒ ชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ห้องทำงานและส่วนจัดแสดงประวัติพิพิธภัณฑ์ พระเกจิชื่อดังของจังหวัดปราจีนบุรี พระพุทธรูป วัตถุมงคลรวมทั้งของขลังต่างๆ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องถ้วยไทย เครื่องถ้วยจีน และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนชั้นที่สองจัดแสดงพระสยามเทวาธิราชที่ทางวัดได้จัดทำขึ้น โดยได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเมื่อทำแล้วปรากฎว่าได้รับผลตอบรับดีเกินคาดจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายทำให้พระสยามเทวาธิราชองค์นี้กลายเป็นพระหายากและมีมูลค่าสูง นอกจากนี้ในบิเวณเดียวกันยังมีการจัดแสดงเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ลวดลายเก่าแก่ชุดกระเบื้องเคลือบรูปเทพเจ้าจีนขนาดเท่าครึ่งหนึ่งของคนจริง ***วัดแก้วพิจิตร พระอารามหลวง ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกง เขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรีห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 2 กิโลเมตร และตั้งอยู่บนถนนแก้วพิจิตร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีประวัติ/สถาปัตยกรรม วัดเก่าแก่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2422 โดยนางประมูล โภคา (แก้ว ประสังศิต) ภรรยาของขุนประมูลภักดี ต่อมาในปี พ.ศ. 2461 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้สร้าง พระอุโบสถ เพิ่มเติม มีลักษณะทาง สถาปัตยกรรมภายนอก และการตกแต่งภายในอาคาร ผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรป และ เขมร อาคาร ที่สำคัญภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ ที่ฝาผนังด้านนอกมีภาพปูนปั้นตัวละคร ในเรื่องรามเกียรติ์ มีเสาแบบกรีก ด้านนอกหัวเสาเป็นแบบโครินเธียล ฯลฯ พระประธานปางอภัย พระพุทธรูปประทับขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ขวาหงายในปางประทานอภัย พระหัตถ์ซ้ายหงายขึ้น มีแค่ตัวอย่างเดียว อันได้แก่หลวงพ่ออภัยวงศ์ พระประธานในพระอุโบสถวัดแก้วพิจิตร อำเภอเมืองฯ จังหวัดปราจีนบุรี พระพุทธรูปองค์นี้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงออกแบบ ประทานเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2464 (ค.ศ. 1921) เป็นพระพุทธรูปประทับขัดสมาธิเพชร ยกพระหัตถ์ทั้งสองข้างระดับบั้นพระองค์ พระหัตถ์ขวา หงายออกในปางประทานอภัย พระหัตถ์ซ้ายหงายขึ้นและวางที่พระชานุ ครองจีวรห่มดองเป็นริ้วแบบ เหมือนจริง การที่พระพุทธรูปองค์นี้แสดงปางประทานอภัยก็น่าจะให้สอดคล้องกับสกุลของผู้สร้าง คือ อภัยวงศ์ และเนื่องด้วยว่า สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเป็นผู้ออกแบบ จึงไม่มีพระพุทธรูปในลักษณะ ดังกล่าวก่อนหน้านี้ ***พิพิธ๓ัณฑ์สถานแห่งชาติ ปราจีนบุรีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี เป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดีประจำภูมิภาคตะวันออก จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงและรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ได้จากแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ของภูมิภาคตะวันออกและพื้นที่ใกล้เคียง ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด และจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่ตั้งแต่การเข้ามาตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ตั้งแต่ราวหมื่นปีมาแล้วจนกระทั่งถึงปัจจุบัน แบ่งการจัดแสดงออกเป็นเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ ๑.ห้องประวัติศาสตร์และโบราณคดีภาคตะวันออก เรียนรู้ประวัติศาสตร์และโบราณคดีในภาคตะวันออก ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐานของชุมชน ดังปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยประวัติศาสตร์พร้อมชมวีดิทัศน์ “ร่องรอยวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกงและภูมิภาคตะวันออก” ๒.ห้องชุมชนโบราณในภาคตะวันออก จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกที่สำคัญ ได้แก่ ชุมชนโคกพนมดี ราว ๓,๕๐๐ – ๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว และชุมชนหนองโน ราว ๒,๗๐๐ – ๔,๕๐๐ ปีมาแล้ว ผ่านหลุมศพจำลองเจ้าแม่โคกพนมดีและโบราณวัตถุที่พบจากแหล่งโบราณคดีโคกพนมดีและหนองโน จังหวัดชลบุรี ๓.ห้องพัฒนาการของชุมชนและเมืองโบราณในภาคตะวันออก จัดแสดงพัฒนาการของชุมชนและเมืองโบราณในภาคตะวันออก เริ่มต้นจากความสัมพันธ์กับดินแดนโพ้นทะเล เข้าสู่ช่วงรับวัฒนธรรมทวารวดีและวัฒนธรรมเขมรโบราณในภาคตะวันออก โบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่พบในภาคตะวันออก ได้แก่ ทับหลังจากปราสาทเขาน้อยสีชมพู ทับหลังจากปราสาทสด๊กก็อกธม รวมถึงจารึกที่พบจากปราสาททั้ง ๒ แห่งดังกล่าว ๔.ห้องวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำบางปะกง จัดแสดงเรื่องราวของชุมชนในบริเวณลุ่มแม่น้ำบางปะกง ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนเข้าสู่วัฒนธรรมทวารวดี ผ่านผนังสื่อมัลติมีเดียโปรเจคเตอร์ทัชที่ทุกท่านสามารถสัมผัสเพื่อรับชมเนื้อหา ๕.ห้องเมืองศรีมโหสถ นครรัฐแรกเริ่มแห่งลุ่มน้ำบางปะกง เมืองโบราณศรีมโหสถกำเนิดขึ้นร่วมสมัยกับอาณาจักรฟูนันตอนปลายและพัฒนาเข้าสู่วัฒนธรรมทวารวดีในพุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๖ ก่อนที่วัฒนธรรมเขมรจะเข้ามาในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ – ๑๘ พบโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ ได้แก่ พระคเณศ พระวิษณุจตุรภุช พระพุทธรูปปางสมาธิ รวมถึงเครื่องสำริดประกอบพิธีกรรมที่มีจารึกภาษาเขมรกล่าวถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ***สำนักอุทยานแห่งชาติทับลาน มีขนาดพื้นที่ 1,397,357.00 ไร่ สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ -หาดชมตะวัน -ป่าลาน -ผาเก็บตะวัน -น้ำตกม่านฟ้า -หาดจอมทอง -น้ำตกลำมูลบน -เขามะค่า -น้ำตกบ่อทอง -อ่างเก็บน้ำทับลาน -น้ำตกสวนห้อม ลักษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขาใหญ่น้อยสลับซับซ้อน มียอดเขาสูงที่สุด คือ เขาละมั่ง สูงประมาณ 992 เมตร มีหุบเขาตามธรรมชาติ เหว และน้ำตก เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำมูล และแม่น้ำบางปะกง ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ท้องที่ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีพรรณไม้เฉพาะถิ่น คือ ต้นลาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นป่าลานพืชสุดท้ายที่สมบูรณ์และสวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย ลักษณะภูมิอากาศ ฤดูกาลประกอบด้วย 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายนของทุกปี บางปีอาจเลื่อนมาจนถึงพฤษภาคม ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ของทุกปี บางปีอาจเลื่อนมาจนถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคม - มกราคม ของทุกปี ในช่วงฤดูหนาวบริเวณท้องที่อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา อากาศจะหนาวเย็นสบาย บางเดือนที่อากาศเย็นจัดจะอยู่ระหว่าง 17 - 20 องศาเซลเซียส แต่ทั้งนี้สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากวิกฤติการณ์โลกร้อนจึงควรสอบถามการท่องเที่ยวจากอุทยานแห่งชาติก่อนเดินทางทุกครั้ง พืชพรรณและสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติทับลานมีสังคมพืชที่จัดเป็นป่าลุ่มตำที่มีความสมบูรณ์มาก หากพิจารณาตามประเภทของป่าแล้วสามารถจำแนกได้ 4 ประเภท ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น เบญจพรรณ และป่าเต็งรัง จัดเป็นสังคมพืชที่มีการซ้อนทับกันของลักษณะทางนิเวศวิทยาของป่าภาคกลางกับนิเวศวิทยาของป่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าชุมชุม และสำหรับบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน ท้องที่ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ที่มีต้นลานขึ้นกระจายในพื้นที่อย่างหนาแน่น ได้แก่ บริเวณบ้านทับลาน บ้านขุนศรี บ้านบุพราหมณ์ และบ้านวังมืด จึงได้ชื่อว่าป่าลานผืนสุดท้ายที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศไทย ซึ่งต้นลานจัดเป็นไม้ตระกูลปาล์ม เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นตรงและแข็ง ภายในเนื้อเป็นเส้นใย มีใบอ่อนรอบลำต้นเป็นชั้น ๆ ก้านใบยาวประมาณ 3 - 4 เมตร หนึ่งก้านมีหนึ่งใบ ใบกว้างประมาณ 2 - 3 เมตร จนมีคำสอนในอดีตกาลว่า "ใครที่ชอบตีพ่อแม่ ตายไปมือจะใหญ่เท่าใบลาน" ลำต้นสูงประมาณ 10 - 26 เมตร มีลักษณะพิเศษหลายอย่าง เช่น เป็นต้นไม้ที่มีอายุขัยประมาณ 60 - 80 ปี เมื่อต้นแก่ก็จะออกดอกและผล ดอกมีสีขาว ซึ่งต้นลานจะออกดอกเพียงครั้งเดียว และเมื่อต้นลานออกดอกก็หมายความว่าต้นลานจะต้องตาย เมื่อเมล็ดร่วงหล่น ต้นลานก็จะเริ่มเหี่ยวเฉา และเหี่ยวแห้งตายลงทันที ทรัพยากรสัตว์ป่า จำนวนชนิดของสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานที่ได้จากการสำรวจของกรมป่าไม้ (2543) พบว่ามีสัตว์ประเภทที่มีกระดูกสันหลังอยู่ไม่ต่ำกว่า 321 ชนิด จำแนกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้ - สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พบรวม 76 ชนิด จาก 55สกุล ใน 26 วงศ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่สำคัญ ได้แก่ ช้างป่า กระทิง วัวแดง เสือโคร่ง สัตว์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่สำคัญ ได้แก่ เลียงผา กวางป่า เป็นต้น - นก พบรวม 144 ชนิด จาก 115 สกุล ใน 41 วงศ์ และจำแนกเป็นนกประจำถิ่น 135 ชนิด และนกอพยพย้ายถิ่น 9 ชนิด ชนิดนกที่สำคัญได้ ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ฟ้าพญาลอ นกเงือกกรามช้าง นกกก นกแขกเต้า และนกขุนทอง เป็นต้น - สัตว์เลื้อยคลาน พบรวม 48 ชนิด จาก 35 สกุล ใน 4 วงศ์ ชนิดพันธุ์ที่สำคัญ ได้แก่ เต่าเหลือง กิ้งก่าบินปีกสีส้ม เป็นต้น - สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก พบไม่ต่ำ 17 ชนิด จาก 8 สกุล ใน 4 วงศ์ ชนิดพันธุ์ที่สำคัญ ได่แก่ กบนา เขียดตะปาด และอึ่งแม่หนาว - ปลาน้ำจืด พบไม่ต่ำกว่า 31 ชนิด จาก 26 สกุล ใน 17 วงศ์ ชนิดปลาที่สำคัญ ได้แก่ ปลาชะโอน ปลาดัก ปลากระทิง เป็นต้น